How to sell.

“ทิ้งความตั้งใจที่จะขายของไปซะ แล้วโฟกัสความต้องการของลูกค้าที่อยู่ตรงหน้า”

.

.

.

วลีทองคำจากชายผู้ทำให้โลกยุคใหม่ต้องใช้ “ยาสีฟัน”

.

เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ชาย 3 คนร่วมมือกันใช้พลังอันยิ่งใหญ่ของการตลาด เพื่อพลิกวิถีชีวิตของคนอเมริกัน

.

พวกเขาใช้หลักอันทรงพลัง 7 ข้อในการทำการตลาดให้แบรนด์สินค้าอย่าง 1900 Washer Co. (ตอนนี้คือสุขภัณฑ์ Whirlpool), ยาสีฟัน Pepsodent (ถูก Unilever ซื้อเมื่อปี 1944), บุหรี่ Lucky Strike, สบู่ Palmolive, แผ่นอนามัย Kotex และน้ำส้ม Sunkist (แต่ก่อนคนอเมริกันไม่ดื่มน้ำส้มคั้น)

.

หนึ่งใน 3 คนนั้นคือ Claude C. Hopkins ผู้เขียนหนังสือ Scientific Advertising…

.

ผู้ค้นพบ “กฏเหล็กทางการตลาดทั้ง 7” ที่ต่อมากลายเป็นรากฐานของหนังสือการตลาดระดับตำนาน

.

.

กฏข้อที่ 1 : ลูกค้าคือมนุษย์ จงคุยกับลูกค้าเหมือนมนุษย์คุยกัน

.

กฏข้อที่ 2. งานของเราคือ “ให้ลูกค้าได้ลองสินค้า” งานของสินค้าคือ ขายตัวมันเอง

.

กฏข้อที่ 3. คูปองใช้ได้ผลเสมอ (ขอย้ำว่าเสมอ!)

.

กฏข้อที่ 4. อย่าขายสินค้าสวนกระแส

.

กฏข้อที่ 5. ทดสอบ ทดสอบ ทดสอบ และทดสอบ

.

กฏข้อที่ 6. คำโฆษณาประเภท “ดีที่สุด” หรือ “อันดับหนึ่ง” ไม่เคยได้ผล และไม่มีน้ำหนักมากพอ

.

กฏข้อที่ 7. อย่าให้คำ ‘โฆษณา’ เด่นกว่า ‘ตัวสินค้า’ เพราะคนจะจำแค่โฆษณา แต่ลืมสินค้า

.

.

ตอนที่ Claude Hopkins เกษียณเมื่อปี 1923 เขาเขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Scientific Advertising ซึ่งต่อมา กลายเป็นเหมือน “คัมภีร์ไบเบิ้ล” ของนักการตลาดทั่วโลก

.

.

## ผ่านไป 93 ปี คัมภีร์การตลาดเล่มนี้ก็ถูกแปลเป็นภาษาไทย ##

ปล. ไม่มีขายในร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ

Human taste

ตอนเด็กๆ

เราเคยแอบจิบเบียร์ของพ่อ

ชงกาแฟดื่มตอนแม่หลับไปแล้ว

ม้วน post it จุดเป็นบุหรี่สูบ

จนสำลักควันแทบตาย

รสชาติของผู้ใหญ่ ขมจนไม่เข้าใจ

ว่าทำไมถึงเสพติดมันมากกว่าความหวานของลูกกวาด

วันนี้ฉันได้เรียนรู้

ว่าความขมนั้น เบาบางลง

เมื่อเทียบกับรสชาติชีวิตที่ได้เจอ

https://www.instagram.com/_justcarbon/