ไม่หมดของสวย

“#มันก็ไม่หมดของสวยหรอกลูก” “สมถะไม่ใช่ขี้เหนียว”

วันนี้นอนดึก เพราะตั้งใจเย็บตะขอกระโปรงให้คุณลูก
เธอโตขึ้นมาก เมื่อหัวค่ำเธอขอซื้อชุดนักเรียนใหม่เพราะกระโปรงที่เพิ่งซื้อให้เมื่อกลางเทอมที่แล้วคับไปแล้ว
จึงให้เธอลองสวมกระโปรงตัวเก่าดู รูดซิปแล้วก็ยังใส่ได้ บอกเธอว่า “เดี๋ยวพ่อจะขยับตำแหน่งตะขอนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ให้เธอไปอาบน้ำรีบเข้านอน เพราะต้องไปโรงเรียนแต่เช้า” เธอดีใจ บอกว่างั้นไม่ต้องซื้อก็ได้ค่ะพ่อ..

ไม่เคยรู้สึกซาบซึ้งในคำสอนของแม่จนกระทั่งถึงวันที่เรามีลูก สิ่งที่เราทำให้ลูกในวันนี้ ทำให้ย้อนคิดถึงคำสอนของแม่ตอนเด็กๆ เราไม่เคยเข้าใจแม่เลยว่าทำไมจึงไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้เรา ทั้งๆที่แม่ก็ซื้อให้ได้ เมื่อกางเกงคับ ทุกครั้งที่ร้องขอ แม่ก็มักจะบอกว่า “ชุดเก่าก็ยังใช้ได้อยู่เลย เดี๋ยวแม่ขยับตะขอให้นิดหน่อยก็ใส่ได้แล้ว” ตอนนั้นคิดเป็นอย่างเดียว #ทำไมแม่ขี้เหนียวจัง?
เมื่อเวลาออกไปไหน อยากได้อะไร เมื่อรบเร้าจะให้แม่ซื้อให้ แม่มักจะบอกเสมอว่า “ต่อให้แม่ซื้อให้ #มันก็ไม่หมดของสวยหรอกลูก”
ตอนนั้นยอมรับว่าโกรธแม่มาก และไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องพูดว่าของสวย ก็ในเมื่อมันไม่ได้สวย แต่เราแค่คิดว่าเราต้องการสิ่งนั้น และต้องเอาให้ได้..

เมื่อเราโตขึ้น หาเงินใช้เองได้ คำพูดของแม่ “…มันไม่หมดของสวยหรอกลูก” ก็แว่วในหูทุกครั้ง แข่งกับคำว่า “#ของมันต้องมี” และหลายครั้ง คำว่า “#ของมันต้องมี” มักจะชนะคำพูดของแม่ และสุดท้าย เราก็ได้สิ่งนั้นมาครอบครอง
เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน กลับมี #สิ่งนั้น รุ่นใหม่กว่า สวยกว่า ฟังชั่นมากกว่า ดีกว่า วางขายตามมาทุกครั้ง

จนกระทั่งวันหนึ่งเรามีลูก สิ่งที่ลูกร้องขอจากเรา เป็นประโยคคุ้นๆ คล้ายๆกับที่เราเคยร้องขอจากแม่ในอดีด

และจากคำพูดของแม่แค่ประโยคสั้นๆ กำลังสอนให้เราระมัดระวังในการใช้เงิน จะหยิบจะใช้จะจ่าย ต้องมีการยั้งคิดดูถึงความคุ้มค่า ให้เห็นค่าของเงิน จะไม่ดูถูกเงินไม่ว่าจะเป็นเงินจำนวนมากหรือน้อยก็ตาม คนสำเร็จทางการเงินจริงมักใช้ชีวิตที่เรียบง่าย

เมื่อนั้น คำพูดของแม่ที่ว่า “#มันไม่หมดของสวย…” จึงมักชนะคำว่า “#ของมันต้องมี” ทุกครั้งไป…

ย่าเอก #นางเอกตลอดกาล